haha

วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

มองฟ้าไกล....

หลายครั้งที่สับสนกับชีวิตแต่...ก็พยายามเดินไปเรื่อยๆๆ ในบางครั้งเหมือนทางเดินข้างหน้าหาจุดมุ่งหมายของชีวิตไม่เจอ แต่..ลางๆๆข้างหน้าเต็มไปด้วยหมอกฝนพายุ.. ครั้งก่อนที่ผ่านมามีคนที่เราคิดว่าเดินข้างเราอยู่ด้วยมันอบอุ่น แม้พายุ..ฝน..ลม..จะพัดแรงขนาดไหนเราไม่กลัว เพราะเรามีคนที่เราคิดว่ารักเราเดินมาด้วยกัน แต่สุดท้าย..มีอีกมือที่เราไม่รู้จักมาฉุดรั้งเขาไป และเขาก็ยอมที่จะตามแรงที่ฉุดเขาไว้ไปด้วยความเต็มใจ เรามองด้วยความมึน..งง..ในใจ..เขาบอกกับเราว่า.. เขาเพียงแค่เดินเป็นเพื่อนเราแต่ความรักเขาทำหล่นหายไปแล้ว เขาอยากตามหาความรักของเขา..เป็นคุณ..คุณจะเยื้อเขาไว้ไหม.. ในเมื่อ..เขาเห็นเราเป็นเพียงเพื่อนคนหนึ่ง มันไม่มีประโยชน์ที่จะรั้งไว้..เราคิดแบบนั้น สุดท้ายเราก็ต้องปล่อยมือคนที่เราคุ้นเคยมาเป็นสิบๆๆปีไป ไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไป..แต่เกิดความว่างเปล่าเข้ามาแทนที่ ต่อไปเราก็ต้องเดินด้วยตัวเราเองไปข้างหน้าทีละขั้น..ทีละขั้น. ไม่เข็ดกับเรื่องความรักนะแต่ความศรัทธา..ในเรื่องความรัก.. มันเริ่มหายไปจากความรู้สึกตั้งแต่ที่รู้ว่า..เราต้องอยู่กับตัวเอง..

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

สิ่งที่มองอาจไม่ได้ดั่งใจคิด

ช่วงเวลาหนึ่งของกาลเวลา ของการได้รู้จัก...ของความไม่เข้าใจ ช่วงกาลเวลาหนึ่งของความคิดที่แตกต่าง ของแต่ละคน... ที่อาจพอใจบ้างไม่พอใจบ้าง ก็คงแล้วแต่เหตุผลของแต่ละคน หลายวันก่อนนั่งดูทีวี เขาวิจัยว่าสมอง...สายตา..และการได้ยิน จะมีความขัดแย้งกันเสอ นั่นหมายความว่าในขณะที่เรามอง อาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เพราะสมองจะคิดไปสาระพัด ในขณะที่เราได้ยินก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องทั้งหมด ความไม่พร้อมเพรียงในการมองเห็น ในการคิดค้นหาคำตอบจากสมอง ในการได้ยินเสียงที่อยู่รอบตัว อาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกดั่งที่เราคิด นั่นหมายถึงการหาคำตอบที่ถูก ถ้ามีหลายองค์ประกอบเข้ามายิ่งทำให้เราสับสน ทั้งการมองเห็น..การได้ยิน..และความคิด และสุดท้ายเราก็ต้องเลือกที่จะใช้สติในการพิจารณาจากหัวใจ และผลที่ได้อาจไม่ใช่ดั่งที่เราหวังและคิดไว้...