ทำไมบางคนถึงทุกข์ร้อน วิตกกังวล กระวนกระวาย ไม่สบายใจ ไม่ปลอดโปร่งอยู่เสมอ
คำตอบง่ายมาก
เพราะเขาแบกความคิดและความรู้สึกหลายอย่างเอาไว้ ไม่ปลดปล่อย ไม่ปรับเปลี่ยน
จนกระทั่งมันกลายเป็นขยะหรือคราบสกปรกเกาะติดหัวใจ
เวลามีอะไรมากระทบหรือสัมผัสกับความรู้สึก ก็จะมีคราบเปื้อนเหล่านี้เข้าไปเจือปน
ความสดใสที่ควรจะมี จึงมีได้ไม่เต็มที่
ทำไมเราจึงปล่อยให้ใจเป็น "ถังขยะ" ล่ะ
คำตอบก็คือ
เราไม่ค่อยรู้ตัวหรอก ว่าเราแอบทิ้งขยะลงไปในใจของเราเอง
หรือมีใครทิ้งขยะลงมาในหัวใจของเราบ้าง ถ้าเราไม่หมั่นสำรวจ
บางทีเราอาจมีขยะรกเรื้อหัวใจอยู่มากมายเลยก็ได้ อะไรบ้าง ที่เป็นขยะหัวใจ
1.
ความไม่พอใจ
มีหลายเรื่องเลยนะ ในชีวิต
ที่เราไม่พึงพอใจ ถ้าจะแบ่งให้กว้างที่สุดเพื่อให้เห็นภาพ
สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจมีอยู่ 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ไม่พอใจคนอื่น กับไม่พอใจตัวเอง
ไม่พอใจคนอื่นเกิดได้มากกว่าความไม่พอใจในตัวเอง เพราะธรรมชาติของคน
ย่อมรักตัวเองมากกว่าคนอื่น ย่อมโทษคนอื่นก่อนโทษตัวเอง
ย่อมเห็นความผิดของคนอื่นได้ก่อนและได้ชัดกว่าความผิดของตนเอง
ขณะเดียวกันเราต่างก็รู้ว่าโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มีเกิน มีขาด
จนกว่าจะค่อยๆ ปรับปรุงพัฒนาให้มีความพอดีได้ จึงจะเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากที่สุด
ฉะนั้น เราควรมองด้านดีของกันและกันให้มากกว่าด้านที่บกพร่อง
ถ้าเราเริ่มจากมองด้านดีของกันและกันแล้ว
ความพึงพอใจ และความนับถือในกันและกันก็จะเกิด
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สร้างสรรค์กว่าการจับผิดกัน แล้วนำไปสู่ความไม่พอใจ
2. ความผิดหวัง
2 สิ่งที่ไม่ควรตั้งความหวังไว้สูงนัก
คือหวังว่าเรื่องบางเรื่อง เหตุการณ์บางเหตุการณ์ หรือคนบางคนในอดีตจะย้อนกลับมา
กับหวังว่าอนาคตจะเป็นไปตามที่เราวาดหวังเสียทุกประการ
อดีตเป็นสิ่งที่ยากจะเรียกหาให้ย้อนกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิม
ดีที่สุดคือใช้อดีตเป็นบทเรียน ให้สติ
ให้เราเรียนรู้ทั้งโอกาสและความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น เพื่อให้วันนี้และวันข้างหน้า
ดีกว่าอดีตที่เคยเป็น
ส่วนอนาคตย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย
ไม่สามารถบังคับบงการให้เป็นไปตามความหวังของเราได้เสียทั้งหมด
แต่พอจะคาดการณ์ได้ว่าน่าจะเป็นอย่างไร กระนั้นก็ตาม หากไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์
ก็อย่าได้ทุกข์ร้อนเสียใจ
และปล่อยความคาดหวังบนความไม่แน่นอนแบบนี้ให้เป็นขยะรกอารมณ์
3.
ความอิจฉาริษยา
ขยะอย่างหนึ่งที่รกใจคนที่สุด
ก็คือความอิจฉาริษยาคนอื่น โดยไม่ทันเฉลียวว่า ทุกครั้งที่เราอิจฉาริษยาใครก็ตาม
ความนับถือตัวเองของเราก็เสื่อมถอยลงไปด้วย เพราะการจะรู้สึกอิจฉาหรือริษยาใครนั้น
ย่อมมีพื้นฐานมาจากความรู้สึกว่าเขาดีหรือได้ดีกว่าเรา เราจึงอิจฉาเขาเป็นพัลวัน
จงหยุดอิจฉา แล้วมองให้เห็นว่า
การที่คนอื่นได้ดีหรือมีดีกว่าเรานั้น เป็นสิ่งที่น่ายินดี ควรยินดีกับเขา
และปรับเปลี่ยนโน้มน้าวตัวเองให้ทวีความดีดั่งที่เขามีจนเราอิจฉา
4.
ความยึดมั่นถือมั่น
ขยะที่เพิ่มพูนความรกเรื้อรุงรังให้ใจได้เป็นอย่างดีอีกประการหนึ่งคือ
ความยึดมั่นถือมั่น คิดว่านั่นก็คนของฉัน นี่ก็บ้านของฉัน รถของฉัน คนรักของฉัน
ตำแหน่งของฉัน ฯลฯ จนไม่สามารถปล่อยวาง สิ่งนอกตัว เหล่านั้นลงได้
ส่วนใหญ่พบว่า จิตจะปรุงแต่งไปเอง
ว่าสิ่งนี้ฉันรัก สิ่งนี้ฉันเป็นเจ้าของ ใครก็เอาไปจากฉันไม่ได้
พอไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ ก็ผูกพันหน่วงเหนี่ยว ยังคงเสียดาย เสียใจ
และปรุงแต่งจิตเพิ่มเข้าไปว่าฉันนี้แสนทุกข์ระทม
ลองยอมรับความจริงดูบ้างไหม ว่าอะไรๆ
ในโลกนี่ก็ไม่ใช่ของเราอย่างถาวรทั้งสิ้น แม้กระทั่งร่างกายของเรานี้
แท้ก็เป็นแค่ของยืมมา ใช้ได้ชาตินี้ชาติเดียว เดี๋ยวก็เสื่อม ก็แก่ ก็ป่วย ก็ตาย
ต้องคืนร่างกายสังขารนี้สู่สภาพดิน น้ำ ลม ไฟ เน่าเปื่อยผุพังไป
สิ้นความสวยความหล่อ ตลอดจนลาภยศสรรเสริญทั้งปวง
5. ความกลัว
ใจหลายคน รุงรังไปด้วยความกลัว กลัวเขาจะไม่รัก
กลัวเงินจะหมด กลัวฝนจะตก กลัวนายจ้างจะเลิกจ้าง กลัวเพื่อนร่วมงานจะได้ดีกว่า
กลัวไม่ก้าวหน้า ไม่ได้โบนัส ฯลฯ
กลัวไปทำไม
เรื่องบางเรื่องเราตัดสินเองไม่ได้ อยู่นอกเหนือจากการควบคุม ซึ่งกลัวไปก็เท่านั้น
ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักนิด บางเรื่องแทบไม่มีวันมาถึงในชีวิต ก็กลัวล่วงหน้า
กลัวจนประสาทเสีย
จงพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกคนและทุกสิ่งในชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี
ซึ่งต้องเริ่มจากการทำแต่สิ่งที่ดี โปร่งใส ไม่เป็นแผลติดตัวที่ต้องปิดบังซ่อนเร้น
และจงขจัดความกลัวออกไปจากใจ
เพื่อให้เกิดความมั่นใจที่จะใช้ชีวิตของเราให้สมศักดิ์ศรี
เพื่อที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อทำให้ชีวิตนี้ดีกว่าเดิม
6. ความอยาก
จง "อยาก" ให้พอดีกับกำลังกาย กำลังทุน
และกำลังสติปัญญาของตัวเอง อย่าอยากจนเกินกำลัง เพราะจะทำให้สิ้นกำลังได้ง่าย
แล้วกลายเป็นคนพ่ายแพ้ อ่อนแอ หมดสิ้นความทะเยอทะยานอยากในชีวิต
ความทะเยอทะยานอยากเหมือนรถ แต่ใจเราคือคนขับ
รถแล่นด้วยความเร็วกำลังดี เราก็ได้ประโยชน์ จอดอยู่เฉยๆ ก็นิ่งอยู่กับที่
แต่หากแล่นฉิวจนเกินควบคุม ก็อันตรายกับชีวิต ฉะนั้น
ใจต้องเป็นนายของความทะเยอทะยานอยาก ขับเคลื่อนความทะเยอทะยานอยากโดยควบคุมได้
ทำอย่างไรให้ใจสะอาด
เริ่มจากปล่อยวางสิ่งต่างๆ ลง อย่ายึดติดยึดถือให้มากนัก
แล้วอยู่กับปัจจุบัน อะไรที่อยู่กับเรา เป็นของเรา ย่อมอยู่กับปัจจุบันของเราด้วย
นั่นคือสิ่งจริงแท้แน่นอน การปล่อยวางสิ่งต่างๆ ลง เท่ากับการเทขยะทิ้ง
การอยู่กับปัจจุบัน เท่ากับการปิดฝาถังขยะ ไม่เปิดรับขยะใหม่ๆ
ให้ใจต้องสกปรกรกรุงรังอีก เพื่อมีเวลาทำความสะอาดหัวใจให้ผ่องใส เบิกบาน
ใจ...แท้จริงผ่องใสด้วยตัวของมันเอง
แต่คนที่เป็นเจ้าของหัวใจต่างหาก ที่ชักนำสิ่งต่างๆ มาปะพอก จนใจนั้นหมดสภาพ
ฟื้นหัวใจให้กลับไปผ่องใสดังเดิมกันเถิด ปัดฝุ่นและคราบเขม่าทั้งหลาย
แล้วเปิดทางให้หัวใจได้หายใจ เต้น และรู้สึกด้วยตัวของมันเอง
อย่าไปบงการหัวใจมาก
เพราะแทนที่จะเป็นหัวใจ มันจะกลายเป็นถังขยะแทน
ข้อมูลจาก
haha
วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555
ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน โต๊ะคอมพิวเตอร์
ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน โต๊ะคอมพิวเตอร์ ช่วยเสริมดวง ช่วยให้หน้าที่การงานรุ่งเรืองรุ่งเรือง |
|
เห็นไหมไม่บรรทัดหนึ่งอัน
ไม้บรรทัดหนึ่งอัน เธอเห็นอะไรบ้าง
ด้านวัดที่เป็น ‘เซนติเมตร’ กับด้านวัดที่เป็น ‘นิ้ว’ ใช่ไหม
ด้านสองด้านที่ขนานกัน ด้านระยะห่างที่สม่ำเสมอ
ความรักของไม้บรรทัดจึงดูเศร้าๆ
เพราะ ‘เซนติเมตร’ กับ ‘นิ้ว’ ยืนอยู่คนละฝั่ง ไม่เคยลากมาบรรจบกัน
ความรักของเธอ - เป็นเหมือนความรักของไม้บรรทัดหรือเปล่า?
รักกัน...แต่ไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งเดียวกัน
รักกัน...แต่ไม่มีสิทธิ์แลกหัวใจกัน
กลายเป็นความรักบนเส้นขนานที่ไม่มีวันได้รวมกันเป็นหนึ่ง
แต่ถ้ามองความผูกพันในแง่ดี มองชีวิตในแง่บวก ความรักของไม้บรรทัดก็อาจจะไม่ได้เศร้าทั้งหมด
และการที่เธอกับเขา ต่างคนต่างเดินไปบนเส้นขนานสองเส้นนั้น
ก็ยังพอมีเรื่องให้น่าดีใจอยู่
ดีใจ - ที่อย่างน้อยๆคนสองคนก็ยังมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ได้ต่างคนต่างไป
มีระยะทางที่เท่าเดิม ไม่ได้ไกลกันมากขึ้นกว่าเดิม
ความรัก -ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียวจริงๆ
คนที่เจอกับรักแท้ เจอกับรักที่ได้อยู่ใกล้กัน
และสามารถแลกใจกันนั้น จึงถือว่าเป็นคนที่โชคดี
แต่ไม่ใช่คนทุกคนหรอกที่เกิดมาแล้วจะได้รับโชคอันนี้
ความรัก - บางครั้งเราเองก็ออกแบบมันไม่ได้
และความรัก - ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับชีวิตเราได้บ่อยๆ
ฉะนั้น ขอบอกเธอเอาไว้ตรงนี้เลย
ถ้าวันหนึ่งเธอมีโอกาสได้พบความรัก แบบไม้บรรทัด
แม้มันอาจจะทำให้เธอเศร้าบ้าง เหงาบ้าง ก็อย่าได้หักหรือทำลาย
ให้คิดและเชื่อว่าถึงจะเดินขนานกัน
แต่เธอกับเขาก็ยังเดินอยู่บนไม้บรรทัดอันเดียวกัน และหายใจภายในโลกใบเดียวกัน
แค่นี้ก็คุ้มค่าในการเกิดมาแล้ว
ด้านวัดที่เป็น ‘เซนติเมตร’ กับด้านวัดที่เป็น ‘นิ้ว’ ใช่ไหม
ด้านสองด้านที่ขนานกัน ด้านระยะห่างที่สม่ำเสมอ
ความรักของไม้บรรทัดจึงดูเศร้าๆ
เพราะ ‘เซนติเมตร’ กับ ‘นิ้ว’ ยืนอยู่คนละฝั่ง ไม่เคยลากมาบรรจบกัน
ความรักของเธอ - เป็นเหมือนความรักของไม้บรรทัดหรือเปล่า?
รักกัน...แต่ไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งเดียวกัน
รักกัน...แต่ไม่มีสิทธิ์แลกหัวใจกัน
กลายเป็นความรักบนเส้นขนานที่ไม่มีวันได้รวมกันเป็นหนึ่ง
แต่ถ้ามองความผูกพันในแง่ดี มองชีวิตในแง่บวก ความรักของไม้บรรทัดก็อาจจะไม่ได้เศร้าทั้งหมด
และการที่เธอกับเขา ต่างคนต่างเดินไปบนเส้นขนานสองเส้นนั้น
ก็ยังพอมีเรื่องให้น่าดีใจอยู่
ดีใจ - ที่อย่างน้อยๆคนสองคนก็ยังมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ได้ต่างคนต่างไป
มีระยะทางที่เท่าเดิม ไม่ได้ไกลกันมากขึ้นกว่าเดิม
ความรัก -ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียวจริงๆ
คนที่เจอกับรักแท้ เจอกับรักที่ได้อยู่ใกล้กัน
และสามารถแลกใจกันนั้น จึงถือว่าเป็นคนที่โชคดี
แต่ไม่ใช่คนทุกคนหรอกที่เกิดมาแล้วจะได้รับโชคอันนี้
ความรัก - บางครั้งเราเองก็ออกแบบมันไม่ได้
และความรัก - ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับชีวิตเราได้บ่อยๆ
ฉะนั้น ขอบอกเธอเอาไว้ตรงนี้เลย
ถ้าวันหนึ่งเธอมีโอกาสได้พบความรัก แบบไม้บรรทัด
แม้มันอาจจะทำให้เธอเศร้าบ้าง เหงาบ้าง ก็อย่าได้หักหรือทำลาย
ให้คิดและเชื่อว่าถึงจะเดินขนานกัน
แต่เธอกับเขาก็ยังเดินอยู่บนไม้บรรทัดอันเดียวกัน และหายใจภายในโลกใบเดียวกัน
แค่นี้ก็คุ้มค่าในการเกิดมาแล้ว
กับสุขภาพที่ไม่ควรมองข้ามจ้า
8 วิธี การบริหารสมอง ให้สดชื่น |
|
ทายใจเล็กๆๆน้อยๆๆ
ทายใจจากอักษรท้ายชื่อ |
|
สักนิดกับชีวิตและสุขภาพ
ตำรายา จากอาหารที่เราบริโภคในชีวิตประจำวัน |
|
วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555
สาระพัดคาถา
ไปอ่านเจอมาคะนี่ก็เป็นเรื่องของความเชื่อแบบไทยๆๆที่สืบทอดมาช้านานเรื่องคาถาแต่
ก็ไม่ทราบได้นะคะว่าผลที่ได้มันเป้นจริงตามที่ท่องหรือเปล่าเพราะข้าพเจ้าไม่เคยทดลองเลยคะแฮ่ๆๆๆ....
1. คาถาเมตตามหานิยม
นะเมตตา โมกรุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู นะโมพุทธายะ นะมะอะอุ
(ใช้ภาวนาคาถาก่อนออกจากบ้าน จะทำให้คนที่พบเจอมีความรู้สึกที่ดี การติดต่อใดๆก็จะราบรื่นไม่ติดขัด)
2. คาถาเจ้านายเมตตา
ปัญจะมังสิระสังขาตัง นาหาย นะกาโร โหติ สัมภะโว อิสวาสุ
(ให้สวดท่องภาวนา ๓ จบ ก่อนออกจากบ้าน แล้วเจ้านายจะเมตตา)
3. คาถาขุนแผน
เอหิมะมะ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ
(ใช้ท่องกับของใช้ส่วนตัวอะไรก็ได้แล้วจะทำให้มีเสน่ห์เป็นที่หลงไหล)
4. คาถาเอ็นดู
วิชชาจะระณะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา
ปิยะเทวะมนุสสานัง ปิโยพรหมานะ มุตตะโม
ปิโยนาคะ สุปัณณานัง
ปิณินทะริยัง นะมามิหัง
นะเมตตา โมกรุณา พุทปรานี ธายินดี ยะเอ็นดู
(ให้ท่องคาถาก่อนไปพบผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อให้เกิดความรักใคร่เอ็นดู)
5. คาถาสมัครงาน
พุทธัสสาหัง นิยยาเทมิ สะริรัญ ชีวิตัญวิทัง
นะโมมิตตามนุสสาจะ นะเมตตา โมกรุณา
(ใช้ท่องก่อนออกจากบ้านไปสัมภาษณ์หรือสมัครงานจะทำให้มีเสน่ห์เป็นที่ประทับใจ
6. คาถาค้าขายดี
โอมอิติพุททัตสะ สุวันนัง วารัชชะคัง วามะนีวาวัตตัง วาพัพพะยัน ละเอหิคาคัชวันติ
(ให้เอาใบไม้แช่น้ำใส่ขันไว้แล้วสวดภาวนา เลร็จแล้วนำน้ำไปประพรมให้ทั่วร้าน จะทำให้ขายคล่อง)
หรืออีกคาถาหนึ่งก็ว่ากันว่าทำให้ทำมาค้าขึ้นเหมือนกันคือ
อิติปิโสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ อิติปิโสภะคะวา พุทโธภะคะวา อิติปิโสภะคะวา พุทโธภะคะวา
7. คาถาสาริกาลิ้นทอง
พุทธา อะเนนา มะลิยา สุสังคะเยมิ
พุทธา อิริมะลิยา สุสังคะเยมิ
พุทธา อิรปะโย เคมะคุณนะ ปักเขสะเมมะมิ
อุนาโลมา ปันนะ วิชายะเต
(ใช้สวดภาวนาหากต้องการให้คนรักใคร่ พูดจาเป็นเสน่ห์ ตอนท่องถึงคำว่า มิ ก็ให้แตะที่ลิ้นด้วยทุกครั้ง)
8. คาถาอุปถัมภ์
อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญมาคะตา อิติโพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จะตมะโน
นะเมตตา โมกรุณา พุทปรานี ธายินดี ยะเอ็นดู ยะหันตวา ธามัวเมา พุทพาเอา นะโมพุทธายะ
(ใช้ท่องก่อนออกจากบ้าน จะทำให้เจ้านายสงสาร ช่วยเหลืออุปถ้มภ์ดี)
9. คาถารักแท้
โอมนะโมพุทธายะ พุทธัง สะระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง สะระติ
จิตตังสะมาเรมะมะเอทิ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พะหูชะนา เอหิ
(ให้บริกรรมคาถานี้กับลูกอมแล้วอมขณะที่คุยกับคนที่เรารัก จะทำให้เขาคนนั้นเกิดความรักจริงจังขึ้นมา)
10. คาถามัดใจ
พุทธัง รัตตะนัง ธัมมัง รัตตะนัง สังฆัง รัตตะนัง นะผูก โมมัด พุทรัด ธารึง ยะกรึงคะเร โอมสวาหะ
(ใช้สวดภาวนาก่อนนอน ทำให้คนรักคิดถึง)
สนใจใช้คาถาไหนก็ลองดูกันนะ ……………………………
ก็ไม่ทราบได้นะคะว่าผลที่ได้มันเป้นจริงตามที่ท่องหรือเปล่าเพราะข้าพเจ้าไม่เคยทดลองเลยคะแฮ่ๆๆๆ....
1. คาถาเมตตามหานิยม
นะเมตตา โมกรุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู นะโมพุทธายะ นะมะอะอุ
(ใช้ภาวนาคาถาก่อนออกจากบ้าน จะทำให้คนที่พบเจอมีความรู้สึกที่ดี การติดต่อใดๆก็จะราบรื่นไม่ติดขัด)
2. คาถาเจ้านายเมตตา
ปัญจะมังสิระสังขาตัง นาหาย นะกาโร โหติ สัมภะโว อิสวาสุ
(ให้สวดท่องภาวนา ๓ จบ ก่อนออกจากบ้าน แล้วเจ้านายจะเมตตา)
3. คาถาขุนแผน
เอหิมะมะ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ
(ใช้ท่องกับของใช้ส่วนตัวอะไรก็ได้แล้วจะทำให้มีเสน่ห์เป็นที่หลงไหล)
4. คาถาเอ็นดู
วิชชาจะระณะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา
ปิยะเทวะมนุสสานัง ปิโยพรหมานะ มุตตะโม
ปิโยนาคะ สุปัณณานัง
ปิณินทะริยัง นะมามิหัง
นะเมตตา โมกรุณา พุทปรานี ธายินดี ยะเอ็นดู
(ให้ท่องคาถาก่อนไปพบผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อให้เกิดความรักใคร่เอ็นดู)
5. คาถาสมัครงาน
พุทธัสสาหัง นิยยาเทมิ สะริรัญ ชีวิตัญวิทัง
นะโมมิตตามนุสสาจะ นะเมตตา โมกรุณา
(ใช้ท่องก่อนออกจากบ้านไปสัมภาษณ์หรือสมัครงานจะทำให้มีเสน่ห์เป็นที่ประทับใจ
6. คาถาค้าขายดี
โอมอิติพุททัตสะ สุวันนัง วารัชชะคัง วามะนีวาวัตตัง วาพัพพะยัน ละเอหิคาคัชวันติ
(ให้เอาใบไม้แช่น้ำใส่ขันไว้แล้วสวดภาวนา เลร็จแล้วนำน้ำไปประพรมให้ทั่วร้าน จะทำให้ขายคล่อง)
หรืออีกคาถาหนึ่งก็ว่ากันว่าทำให้ทำมาค้าขึ้นเหมือนกันคือ
อิติปิโสภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ อิติปิโสภะคะวา พุทโธภะคะวา อิติปิโสภะคะวา พุทโธภะคะวา
7. คาถาสาริกาลิ้นทอง
พุทธา อะเนนา มะลิยา สุสังคะเยมิ
พุทธา อิริมะลิยา สุสังคะเยมิ
พุทธา อิรปะโย เคมะคุณนะ ปักเขสะเมมะมิ
อุนาโลมา ปันนะ วิชายะเต
(ใช้สวดภาวนาหากต้องการให้คนรักใคร่ พูดจาเป็นเสน่ห์ ตอนท่องถึงคำว่า มิ ก็ให้แตะที่ลิ้นด้วยทุกครั้ง)
8. คาถาอุปถัมภ์
อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญมาคะตา อิติโพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จะตมะโน
นะเมตตา โมกรุณา พุทปรานี ธายินดี ยะเอ็นดู ยะหันตวา ธามัวเมา พุทพาเอา นะโมพุทธายะ
(ใช้ท่องก่อนออกจากบ้าน จะทำให้เจ้านายสงสาร ช่วยเหลืออุปถ้มภ์ดี)
9. คาถารักแท้
โอมนะโมพุทธายะ พุทธัง สะระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง สะระติ
จิตตังสะมาเรมะมะเอทิ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พะหูชะนา เอหิ
(ให้บริกรรมคาถานี้กับลูกอมแล้วอมขณะที่คุยกับคนที่เรารัก จะทำให้เขาคนนั้นเกิดความรักจริงจังขึ้นมา)
10. คาถามัดใจ
พุทธัง รัตตะนัง ธัมมัง รัตตะนัง สังฆัง รัตตะนัง นะผูก โมมัด พุทรัด ธารึง ยะกรึงคะเร โอมสวาหะ
(ใช้สวดภาวนาก่อนนอน ทำให้คนรักคิดถึง)
สนใจใช้คาถาไหนก็ลองดูกันนะ ……………………………
วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555
เวลากับชีวิต
กาลเวลาเป็นสิ่งที่เดินไปตามทางที่วางไว้และคงที่แต่คนเราไม่ได้เดินอยู่บนกาลเวลา
แต่เดินด้วยสองเท้า..สมอง..และจิตใจที่มั่นคงตากหาก..
สิ่งเล็กๆๆน้อยๆๆที่เราอาจมองข้ามไป
ฟอฟันกับความรัก
เล็กๆๆน้อยๆๆกับเรื่องราวที่อ่านเจอมาคะวันนี้เริ่มวันแรกในรอบปีที่ห่างหายไปจากการเขียนไดอารี่
พอมาเริ่มอีกทีก้วันที่4มีนาคมของปี55เลยทีเดียวต่อไปนี้ว่าจะพยายามหาเวลาเขียนไดอารี่ซะที
และนี่เป็นการเริ่มของปี55และเป็นวันแรกของการสมัครบล็อคเลยทีเดียว...มะนาวเคยเขียนเล่นในไอไทเป็นที่แรกในชีวิตเลยที่นั่นมีเพื่อนพี่น้องที่คุ้นเคยและรวมความสุข..แล้วช่วงเวลานั้นก็ผ่านไป
กลายเป็นอดีตที่ไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีกที่นั่นมีความรู้สึกดีๆๆมากมายเกิดขึ้น..
แล้ววันหนึ่งพวกเราก็ต่างแยกย้ายกันไปเพราะเวปได้ปิดตัวลงตามกาลเวลา
แต่ก็ต้องขอบคุณเจ้าของที่ให้เรามีความทรงจำที่ดีๆๆกับครั้งหนึ่งในชีวิต
ได้รู้จักพี่...เพื่อน...น้อง...ที่นั่น
| ||
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)