การทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
ได้รับความรู้จากลุงอรรถ จากเวปรักบ้านเกิดเรื่องการทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่ผ่านมามีผู้สนใจสอบถามมามากมาย เลยเอามาลงใว้ที่บอร์ดนี้ด้วย
วิธีทำ จะอธิบายพอเป็นสังเขป เพราะทำไม่ยากเลย
1. คั้นกะทิ แบบไม่ต้องเติมน้ำ
2. ใส่ถุงพลาสติก นำเข้าตู้เย็น ช่องธรรมดา เป็นเวลา อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
3. นำออกมาจากตู้เย็น จะพบว่า กะทิจะแยกชั้น เป็น 2 ชั้น ชั้นบนเป็นครีมกะทิ
ส่วนชั้นล่าง เป็นน้ำเปรี้ยว ให้ทำการเจาะถุง เอาน้ำเปรี้ยวออก แล้วมัดรูที่เจาะไว้
ด้วยยางรัดของ จากนั้นนำเข้าตู้เย็นช่องแช่แข็ง แช่ไว้สัก 36 ชม.จนแข็งดี
4.นำออกมาตั้งพักไว้ข้างนอก รอจนกระทั่งกะทิที่แข็งตัวค่อยๆละลายและจะแยกชั้น
จนเห็นชัดเจน 3 ชั้น
- ชั้นบนสุดเป็นครีม
- ชั้นกลางเป็นน้ำมันมะพร้าว
- ส่วนชั้นล่างเป็นน้ำเปรี้ยว
5.ให้ทำการตัก เอาเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำมันมะพร้าว ไปใช้ประโยนช์
6.ควรเก็บไม่ให้โดนอากาศ และแสง ควรใช้ขวดสีชา เช่นขวดลิโพ ขวดเบียร
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
คือ น้ำมันที่ได้โดยไม่ผ่านความร้อน (cold press coconut oil) ผลิตจากเนื้อมะพร้าวสดเป็นน้ำมันมะพร้าวที่บริสุทธิ์ที่สุด สีใสเหมือนน้ำ มีวิตามินอี และไม่ผ่านขบวนการเติมออกซิเจน (oxidation) และที่สำคัญกรดล อริกใน น้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริก อยู่ประมาณ 54.61% กรดนี้มีส่วนที่ทำให้น้ำมันมะพร้าวดีเด่นกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ เพราะมันมีความสามารถพิเศษคือสร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อเราบริโภคน้ำมันมะพร้าวเข้าไปในร่างกาย กรดลอริกในน้ำมันมะพร้าว จะเปลี่ยนเป็นโมโนกลีเซอไรด์ ที่มีชื่อว่า โมโนลอริน ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่อยู่ในน้ำนมมารดา ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารกในระยะ 6 เดือนแรกที่ร่างกายยังไม่สร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เด็กระยะแรกเกิด ไม่ค่อยเป็นโรคอะไร ฆ่าเชื้อโรค โมโนลอรินเป็นสารปฏิชีวนะที่ทำลายเชื้อโรคทุกชนิด ที่ดีกว่ายาปฏิชีวนะที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ โปรโตชัว และไวรัส รวมทั้งเชื้อที่ก่อให้เกิดหลอดเลือดแข็งตัว
บทบาทของน้ำมันมะพร้าวต่อความงาม
เกี่ยวกับเรื่องนี้น้ำมันมะพร้าวมีข้อดีคือ ต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี ทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านการเติมออกซิเจน โดยการป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกเติมออกซิเจน ได้ง่าย ๆ ประกอบด้วยสารโทโคไทรอีนอลที่มีอานุภาพสูง วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าว มีสารโทโคไทรอีนอล ซึ่งเป็นรูปของวิตามินอีที่มีคุณภาพสูงกว่าสารโทโคเฟอรอลซึ่งอยู่นวิตามินอี ทั่วไป โดยเฉพาะที่มีอยู่ในเครื่องสำอางรักษาผิวถึง 40-50 เท่า ด้วยเหตุนี้ น้ำมันมะพร้าวจึงต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ผิวสวย การนวดหรือชโลมตัวด้วยน้ำมันมะพร้าว ช่วยให้ผิวสวย เพราะ
1.1 ผิวดูอ่อนวัย น้ำมันมะพร้าวที่ใช้ชโลมตัว ทั้งในรูปน้ำมันมะพร้าวสด ๆ หรือในรูปของผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าว เช่น ครีม และโลชั่นจะทำให้ผิวพรรณนุ่มไม่แตกแห้งเป็นกระ หรือฝ้า แต่ชุ่มชื้นและเนียน ปราศจากริ้วรอย ทั้งนี้เพราะน้ำมันมะพร้าวมีวิตามินอีที่มีอานุภาคมากกว่าวิตามินอีใน เครื่องสำอาง
1.2 ผิวนุ่มและเนียน ตามปกติผิวหนังจะสูญเสีย ความชื้นเพราะถูกแดดและลมน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติเป็นสารรักษาความชุ่มชื้น (moisturizer) จึงช่วยให้ผิวหนังนุ่มและเนียน
1.3 ช่วยป้องกันและรักษาฝ้า และ กระ อนุมูลอิสระ เป็นตัวการอันหนึ่งของการเกิดฝ้า (รอยดำคล้ำหรือปนสีน้ำตาลอ่อน) และกระ วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าวจะทำหน้าที่ทำลายอนุมูลอิสระเหล่านี้เราสามารถใช้ น้ำมันมะพร้าวเป็นยาทากันแดดได้ดี อีกทั้งยังไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนยากันแดดบางชนิด และราคาก็ถูกกว่า
2. ผมงาม เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวเป็นนำมันพืชที่มีคุณสมบัติที่เพิ่มความชุ่มชื้น อีกทั้งมีสารปฏิชีวนะ (จากโนโนลอริน) และสาร antioxidant (จากสารโทโคทรินนอลในวิตามินอี) จึงมีส่วนทำให้ผมงาม จากคุณสมบัติต่อไปนี้
2.1 ช่วยปรับสภาพผม น้ำมันมะพร้าวเป็น Hair conditioner ที่ช่วยทำให้ผมนุ่มดำเป็นเงางาม เพราะมีวิตามินอีที่ช่วยเสริมการเจริญของเส้นผม
2.2 ช่วยรักษาสุขภาพของหนังศรีษะ น้ำมันมะพร้าวช่วยรักษาสุขภาพของหนังศรีษะทั้งนี้ เพราะน้ำมันมะพร้าวมีสารปฏิชีวนะที่คอยทำลายเชื้อโรค หนังศรีษะจึงไม่มีรังแค หนังศรีษะจึงมีสุขภาพดี
2.3 ช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี เส้นผมประกอบด้วยส่วนนอก ที่ทำหน้าที่หุ้มส่วนใน หากส่วนนอกอยู่ในสภาพที่ดี ไม่ฉีกขาดหรือแหว่งนั้น เส้นผมก็จะปกติ แต่ส่วนที่ทำให้เส้นผมมีสุขภาพดี กล่าวคือ น้ำมันมะพร้าวช่วยลดปริมาณการสูญเสียโปรตีนเส้นผม เพราะน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติยึดเกาะ กับโปรตีนของเส้นผมได้ดี อีกทั้งมีขนาดของโมเลกุลเล็กจึงแทรกซึมเข้าไปในเส้นผมได้สะดวก
วิธีการเก็บรักษาน้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวจะเป็นไขที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องสาเซ็นเซียส (ไม่ได้เสีย) และจะกลับมาใสเหมือนเดิมที่อุณหภูมิห้อง โดยที่คุณสมบัติทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% สกัดเย็น
1. เริ่มแรกก็ต้องขูดมะพร้าวก่อนนะครับ ถ้าจะให้ดี ได้น้ำมันสีสวยๆ ใสๆ ก็ขูดอย่าให้ถึงกะลา
การขูดต้องขูดเบาๆ เพื่อให้ได้เนื้อที่นิ่มๆ คั้นกะทิง่าย ตามรูปนี้ผมขูดซะกะลาเกลี้ยงเลย
ได้เนื้อมะพร้าวมา 4.9 กก.
2. น้ำมะพร้าวที่ต่อยออกมาอย่าทิ้งนะครับ เก็บไว้ก่อน หมักเป็นปุ๋ยได้ครับ
3. น้ำคั้นกะทิใช้น้ำอุ่นนะครับ อุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียสครับ ไม่ต้องซีเรียสถึง
ขนาดไปซื้อเทอร์โมมิเตอร์มาวัดนะครับ(แต่ถ้ามีก็ดี) ถ้าไม่มีก็ถือเอาว่าร้อนที่สุดที่จุ่มมือ
ลงไปแช่ได้สบายๆ
4. คราวนี้ก็ถึงตาคั้นกะทิแล้วครับ บีบ บีบ บีบ....คั้น คั้น คั้น....งานนี้ใช้น้ำอุ่นไป 3 ลิตรครับ
หมายเหตุ คั้นน้ำเดียวนะครับ
5. ได้น้ำกะทิแล้วก็กรองครับ
6. น้ำกะทิที่ได้ครับ
7. กากมะพร้าวก็เก็บไว้หมักปุ๋ยครับ ลองชั่งดูสดๆ ได้ 2.9 กก. ครับ
8. ตวงน้ำกะทิใส่ถุงพลาสติกแบบที่เราไปซื้อแกงถุงนั่นแหละครับ ใช้ยางมัดปากถุงให้แน่น
อย่ามัดให้ถุงโป่งตึงนะครับ มัดแบบหย่อนๆ เผื่อให้น้ำภายในถุงขยายตัวได้
ถุงน้ำกะทิทั้งหมดใส่ในภาชนะที่ทำให้ถุงตั้งตรง ไม่เอียง ไม่ล้ม วางในที่ร่มและ
เย็น ไม่กระทบกระเทือน ประมาณ 8 ชม. จนกะทิแยกตัวเป็น 2 ชั้นสมบูรณ์
9. นำถุงกะทิที่แยกตัวเป็น 2 ชั้นสมบูรณ์แล้ว แช่ในตู้เย็นช่องธรรมดานะครับ ห้าม! ใส่ช่อง
แช่แข็ง แช่ไว้ประมาณ 10-12 ชม. เพื่อให้ไขชั้นบนจับตัวเป็นก้อนแข็ง
10. ตัวอย่างน้ำกะทิที่ไขชั้นบนจับตัวแข็งครับ ตอนนี้เอาออกมาจากตู้เย็นทั้งหมดเลยครับ
11. แกะปากถุง เอาไขแข็งออกมาแบบง่ายๆ อย่างนี้ครับ
12. หน้าตาของไขแข็งชั้นบน ที่จะนำไปสกัดน้ำมันต่อครับ
13. น้ำเปรี้ยวที่เหลือในถุงเก็บไว้หมักปุ๋ยรวมกับพรรคพวกก่อนหน้าครับ
14. ไขแข็งทั้งหมดวางบนผ้าขาวบาง(ซ้อน 2-4 ชั้น)
15. รวบผ้าขาวบางเป็นถุง ผูก-มัดให้แน่น
16. คราวนี้ก็แขวนไว้ปล่อยให้หยดละครับ......แรกๆ แขวนปล่อยให้น้ำหยดทิ้งไปสัก
ครึ่งชั่วโมงนะครับ เพราะช่วงแรกๆ ที่หยดลงมาจะเป็นน้ำเปรี้ยว
17. ผ่านครึ่งชั่วโมงไปแล้ว ก็เปลี่ยนภาชนะรองเก็บน้ำมันครับ
18. ปล่อยให้น้ำมัน(จะปนน้ำ และปนไขด้วย) หยดลงภาชนะรองประมาณ 24-36 ชม.
อาจจะมีกลิ่นไม่ค่อยดีปนบ้างก็ไม่เป็นไรครับ ชั้นบนที่เป็นน้ำมันใสๆ คือสิ่งที่เราต้องการครับ
19. เศษซากที่หลงเหลือในผ้าขาวบาง เอาไปรวมกับพรรคพวกหมักปุ๋ยครับ
20. ถ่ายน้ำมันปนน้ำ ปนไข ลงภาชนะอื่น ค่อยๆ รินนะครับ พยายามให้ออกมาแต่น้ำมันใสๆ
ผิวบน ส่วนที่เหลือนอนก้น...รวมกับพรรคพวก....หมักปุ๋ย....
21. หน้าตาของน้ำมันที่ได้ครับ สังเกตด้านก้น ยังมีน้ำและไขติดมาอยู่
22. กรองผ่านผ้าขาวบาง และค่อยๆ รินอีกครั้งหนึ่ง ผลที่ได้ครับ.......ข้อสังเกตก็คือการกรอง
ขั้นตอนนี้ถ้าใช้ภาชนะใส ทรงสูง จะทำงานง่ายกว่าภาชนะทรงแบนๆ ครับ
23. ในน้ำมันที่ได้จะยังมีความชื้นปนอยู่ในเนื้อน้ำมันด้วยนะครับ จึงต้องต่อด้วยขั้นตอนนี้
อุปกรณ์ที่ใช้ก็ดังในภาพ ต้มน้ำอุ่นให้น้ำมันร้อนถึง 60 องศาเซลเซียส รักษาอุณหภูมิของ
น้ำมันให้คงที่ประมาณ 2 ชม. ไม่ต้องคน ไม่ต้องเขย่านะครับ......
24. ทดสอบอุณหภูมิของน้ำ (แบบลูกทุ่ง) ครับ
25. ทิ้งไว้ให้เย็น ลองตวงดู ได้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมา 650 ซีซี ครับ
26. การเก็บรักษาควรเก็บไว้ในภาชนะแก้ว ไม่โดนแสง ปิดฝาสนิท และเก็บในที่เย็นนะครับ
หรือจะเก็บไว้ในตู้เย็นก็ยิ่งดีไปใหญ่ครับ
"น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเพื่อสุขภาพมาแล้วครับ......ทำเองก็ได้...ง่ายจัง..."
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น