|
|
|
ท่านผู้อ่านหลายๆท่านอาจจะกำลังประสบปัญหาเดียวกัน
นั่นก็คือปวดส้นเท้าไม่ทราบสาเหตุ ปวดแบบเรื้อรังมานานรบกวนการยืน เดิน
ในชีวิตประจำวัน วันนี้ ไคโรเมด คลินิก
มีวิธีการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่มีอาการปวดส้นเท้าอย่างง่ายๆ
มาฝากท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ
อาการปวดส้นเท้าเกิดจากอะไร? ก่อนที่จะทราบวิธีการรักษาเบื้องต้น
เราควรรู้ถึงสาเหตุหลักๆของอาการปวดส้นเท้ากันก่อน
สาเหตุของอาการปวดส้นเท้าเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
การเสื่อมสภาพของพังผืดตามการใช้งาน การเดินและรับน้ำหนักมากเกินไป
หรือการมีกระดูกงอกบริเวณส้นเท้า แต่สาเหตุของอาการปวดส้นเท้าที่พบได้บ่อย ได้แก่
เส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ (Plantar fasciitis) หรือที่เรียกภาษาชาวบ้านว่า "โรครองช้ำ"
นั่นเอง ซึ่งอาการดังกล่าวพบได้บ่อย ในผู้หญิงวัยกลางคน ผู้ที่อ้วน หรือ
มีรูปเท้าผิดปกติ เช่น เท้าแบน เท้าบิด
ส่วนสาเหตุของการเกิดโรคที่แท้จริงยังไม่ทราบ
แต่เชื่อว่าเป็นเพราะความเสื่อมในจุดที่เส้นเอ็นฝ่าเท้าเกาะกับกระดูกเส้น
เอ็นฝ่าเท้าจะเกาะอยู่ระหว่างส้นเท้ากับนิ้วเท้า
เมื่อเส้นเอ็นหรือกระดูกบริเวณส้นเท้า ได้รับแรงที่มากเกินไป เช่น
การยืนหรือเดินนาน ๆ น้ำหนักตัวมาก อุบัติเหตุ หรือ ใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม
เป็นต้น ทำให้เส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบได้ ลักษณะของอาการปวดที่พบได้บ่อย คือ
หลังจากนอนหรือนั่งพักเป็นเวลานานๆ แล้วลุกขึ้นเริ่มเดินลงน้ำหนักในช่วงแรก ๆ
จะรู้สึกปวดมาก แปล๊บๆที่ส้นเท้า แต่หลังจากที่เดินไปได้สักพัก
อาการปวดก็จะทุเลาลง
อาการปวดส้นเท้ารักษาอย่างไรให้หายขาด? ผู้ป่วยเส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบส่วนใหญ่อาการจะค่อย
ๆ ดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่อาจจะต้องใช้เวลารักษานานหลายเดือน
หรืออาจจะเร่งกระบวนการในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ โดยใช้วิธีการทำกายภาพบำบัด
และการรักษาทางการแพทย์โดยการทานยาลดปวดลดอักเสบ
ส่วนวิธีการผ่าตัดนั้นไม่ค่อยเป็นที่นิยมนำมาใช้ในการรักษา
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือวิธีการดูแลตัวเอง ดังนี้
1.
ลดกิจกรรมที่ทำให้ปวด หรือ กิจกรรมที่ต้องลงน้ำหนัก เช่น การยืนหรือ เดินนาน ๆ
เป็นต้น และควรออกกำลังที่ไม่ต้องมีการลงน้ำหนัก เช่น ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน
เป็นต้น
2. บริหารเพื่อยืดกล้ามเนื้อน่อง และ เส้นเอ็นฝ่าเท้า
เป็นประจำ
3. นวดฝ่าเท้าเบาๆเพิ่อเป็นการผ่อนคลาย หรือ
ใช้ผ้าพันที่ฝ่าเท้าและส้นเท้าเพื่อลดการบาดเจ็บต่อเอ็นฝ่าเท้า
4.
ใส่รองเท้าที่มีขนาดพอดีไม่หลวมหรือคับจนเกินไป
สำหรับผู้ที่เท้าแบนควรเสริมพื้นรองเท้าด้วยแผ่นรอง เพื่อรับอุ้งเท้าให้นูนขึ้น
อาจใช้แผ่นนุ่ม ๆ รองอีกทีที่ส้นเท้าเพื่อลดอาการปวดจากแรงกดเวลาลงน้ำหนัก
หลีกเลี่ยงการเดินด้วยเท้าเปล่า
5. ประคบด้วยน้ำแข็งหรือน้ำอุ่น
อาจใช้น้ำแข็งทุบใส่ในถุงพลาสติกแล้วห่อด้วยผ้าขนหนู หรือ ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น
ประคบบริเวณที่ปวดประมาณ 10 - 15 นาที หรือ ประคบด้วยความร้อน 4 นาที
สลับกับความเย็น 1 นาที หรือใช้ครีมนวดแก้ปวด
ก็ได้แต่ต้องระวังอย่านวดแรงเพราะจะทำให้กล้ามเนื้อฟกช้ำมากขึ้นไป
ถ้าปวดมากอาจรับประทานหรือทายาแก้ปวด
6. ลดน้ำหนัก
เพื่อลดแรงกดเมื่อเดินลงน้ำหนัก
ถ้าดูแลตัวเองได้ดีเช่นนี้
รับรองอาการปวดส้นเท้าของท่านจะต้องลดลงอย่างแน่นอนค่ะ!!! |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น