|
อาจารย์ท่านแนะนำเคล็ดลับไว้ 12 ข้อดังต่อไปนี้...
1. หวีผมบ่อยๆ: หวีผมเบาๆ
บ่อยหน่อยช่วยให้ตาสว่าง และรากผมแข็งแรง (ใช้หวีซี่ห่างหน่อย แปรงเบาหน่อย
เพื่อกันผมหลุด)
2.
ถูใบหน้าบ่อยๆ: ล้างมือด้วยสบู่
หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดก่อน หลังจากนั้นใช้ฝ่ามือ 2 ข้างถูหน้าเบาๆ
บ่อยหน่อยเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ใบหน้าเปล่งปลั่ง
3. เคลื่อนไหวดวงตาบ่อยๆ: ให้มองไกล-มองใกล้
มองข้างนอก-ข้างใน มองบน-มองล่าง หลีกเลี่ยงการมอง
หรือจ้องอะไรนานๆโดยเฉพาะคนที่ทำงานคอมพิวเตอร์ควรพักสายตาด้วยการมองไกลอย่างน้อยทุกชั่วโมง
4. กระตุ้นใบหูบ่อยๆ: การดึงหู ดีดหู บีบหู ถูใบหูเบาๆ
บ่อยหน่อย ช่วยบำรุงตานเถียน(จุดฝังเข็ม)
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เก็บพลังงานของร่างกาย(ใต้สะดือ) สัมพันธ์กับไต
ซึ่งเปิดทวารที่หู ทำให้แรงดี ป้องกันเสียงดังในหู หูตึง และอาการเวียนหัว
5. ขบฟันบ่อยๆ: ขบฟันเบาๆ บ่อยหน่อย(ไม่ใช่ขบแรงดังกรอดๆ)
ช่วยให้ฟันแข็งแรง และกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย
6. ใช้ลิ้นดุนเพดานปากบ่อยๆ:
การใช้ปลายลิ้นกระตุ้นเพดานบนด้านหน้าเป็นการกระตุ้นจุดฝังเข็ม
เพื่อเชื่อมพลังลมปราณตู๋และเยิ่น ซึ่งเป็นเส้นควบคุมแนวกลางลำตัวส่วนหลัง
และส่วนหน้าร่างกาย ทำให้เกิดการกระตุ้นการหลั่งสารน้ำ และน้ำลาย
7. กลืนน้ำลายบ่อยๆ: การกลืนน้ำลายบ่อยๆ
ช่วยกระตุ้นพลังบริเวณคอหอย และกระตุ้นการย่อยอาหาร
8.. หมั่นขับของเสีย: หมั่นขับของเสีย
โดยเฉพาะดื่มน้ำให้พอ กินอาหารที่มีเส้นใย ออกกำลัง เพื่อป้องกันท้องผูก
เมื่อปวดปัสสาวะหรืออุจจาระให้ถ่ายทันที อย่ารอโดยไม่จำเป็น
การทิ้งของเสียไว้ในร่างกายนานเกินทำให้เกิดสารพิษ และการดูดซึม สารพิษ
(กลับเข้าสู่ร่างกาย) มากขึ้น ทำให้ป่วยง่าย
9. ถูหรือนวดท้องบ่อยๆ: ให้นวดท้องตามเข็มนาฬิกาเบาๆ
เพื่อช่วยให้การขับถ่ายของเสียดีขึ้น
10. ขมิบก้นบ่อยๆ: การขมิบก้นบ่อยๆ
ช่วยป้องกันริดสีดวงทวาร และท้องผูก
11. เคลื่อนไหวทุกข้อ:
การอยู่นิ่งๆ หรืออยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป ทำให้เกิดโรคได้ง่าย
ควรเคลื่อนไหวข้อต่างๆ ให้ครบทุกข้อกวัน ฝึกฝนการใช้กล้ามเนื้อและข้อให้สมดุล
เช่น การฝึกชี่กง ไท้เก้ก โยคะ ฯลฯ
12. ถูผิวหนังบ่อยๆ:
ใช้ฝ่ามือถูตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย คล้ายกับการถูตัวเวลาอาบน้ำ
มีส่วนช่วยให้เลือดและพลังไหล เวียนดี
เรียนเชิญท่านผู้อ่านลองนำไปปฏิบัติดู เพื่อสุขภาพ พลัง
และลมปราณที่ดีไปนานๆ ครับ...
|
|
|
อาหาร 10 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกินนำแนวคิดศาสตร์แพทย์แผนจีนมาวิเคราะห์โดยใช้หลักแพทย์แผนปัจจุบันประกอบ...
อาหารที่ไม่ควรกินมากเกิน หรือบ่อยเกินได้แก่...
1. ไข่เยี่ยวม้า: ไข่เยี่ยวม้ามีตะกั่วค่อนข้างสูง
ตะกั่วทำให้การดูดซึมแคลเซียมน้อยลง กินบ่อยๆ จะเสี่ยงโรคกระดูกโปร่งบาง
และอาจได้รับพิษตะกั่วเช่น สมองเสื่อม เป็นหมัน ฯลฯ 2. ปาท่องโก๋:
กระบวนการทำปาท่องโก๋มีการใช้สารส้ม ซึ่งมีตะกั่วปนเปื้อน
ตะกั่วทำให้ไตทำงานหนักในการขับสารนี้ออกไป นอกจากนั้นยังทำให้คอแห้ง เจ็บคอง่าย
โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคร้อนในได้ง่าย 3.
เนื้อย่าง: กระบวนการรมไฟ
ย่างไฟทำให้เกิดสารเบนโซไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง 4. ผักดอง: ผักดอง
และของหมักเกลือทำให้ร่างกายได้รับเกลือโซเดียมสูง ถ้ากินบ่อยเกิน
หรือมากเกินจะทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดความดันเลือดสูงและโรคหัวใจได้ง่าย
นอกจากนั้นกระบวนการหมักดองยังทำให้เกิด สารแอมโมเนียมไนไตรด์ ซึ่งเป็นสาร
ก่อมะเร็ง 5. ตับหมู: ตับหมูมีโคเลสเตอรอลสูง การกินตับหมูบ่อยเกิน
หรือมากเกินทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ เส้นเลือดสมอง(อัมพฤกษ์-อัมพาต)
และโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น 6.
ผักขม ปวยเล้ง:
ผักขมและปวยเล้งมีสารอาหารสูง ทว่า... มีกรดออกซาเลตมาก
ทำให้เกิดการขับสังกะสี และแคลเซียมออกจากร่างกายมาก การกินบ่อยเกิน
หรือมากเกินอาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลเซียม หรือสังกะสีได้
7. บะหมี่สำเร็จรูป: บะหมี่สำเร็จรูปมีสารกัดบูด
สารแต่งรสค่อนข้างสูง และมีคุณค่าทางอาหารต่ำ การกินบะหมี่สำเร็จรูปมากเกิน
หรือบ่อยเกินอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคขาดอาหาร และการสะสมสารพิษได้
8. เมล็ดทานตะวัน: เมล็ดทานตะวันมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง
ทว่า... การกินมากเกิน หรือบ่อยเกินอาจทำให้กระบวนการเคมี (metabolism)
ในร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิดการสะสมไขมันในตับ
ภาวะไขมันในตับสูงอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคตับ เช่น ตับแข็ง ฯลฯ เพิ่มขึ้น
9. เต้าหู้หมัก เต้าหู้ยี้:
กระบวนการหมักเต้าหู้อาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่าย...
ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคนสูงอายุ หรือเด็กเล็กได้
นอกจากนี้กระบวนการผลิตยังทำให้เกิดไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย
10. ผงชูรส: คนเราไม่ควรกินผงชูรสเกินวันละ 6 กรัม
หรือประมาณ 1 ช้อนชา... การกินผงชูรสมากเกิน หรือบ่อยเกิน
ทำให้เกิดภาวะกรดกลูตามิกในเลือดสูงอาจทำให้ปวดหัว ใจสั่น คลื่นไส้
และมีผลเสียต่ออวัยวะสืบพันธุ์
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีอาหารปลอดภัย และมีสุขภาพดีไปนานๆ
ครับ
FW
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น