|
แต่เมื่อให้ไปแล้วต้อง "ไม่ร้อนรุ่มกลัดกลุ้ม"
และหากเมื่อใดจิตใจอาจระส่ำระสาย สะดุดกับอะไรขึ้นมาบ้าง
ก็จงหยุดพักตรึกตรอง อย่าปล่อยให้พายุอารมณ์โถมพัด"สิ่งดีดี"
จนกระจัดกระจาย
เพราะ
"การให้ความหมาย" ไม่ใช่
"การตั้งความหวัง" คนสองคนให้ความหมายซึ่งกันและกัน
แต่คนสองคน "จะไม่ตั้งความหวังในกันและกัน"
เพราะการตั้งความหวังมักนำพาซึ่ง
"การเรียกร้อง"
"ความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ" โดยที่ไม่รู้ตัว
มันร้อนนัก หนาวนัก และไม่เป็นสุข
เราต้องไม่ลืมปรับอุณหภูมิจิตใจเอาไว้ที่องศาอุ่นๆ
หากเริ่มรู้สึกตัวว่าความร้อนเริ่มทวีขึ้น เราต้องค่อยๆ
เดินออกมาสูดอากาศเย็น
หากตรงกันข้ามเราก็ต้องหลบเร้นจากความหนาวมาหาไอแดดเช่นกัน
และอย่าลืมว่า "ความพิเศษ"
ไม่ได้จำกัดว่า จะต้องเป็นพิเศษมากหรือพิเศษสุด
หรือพิเศษอย่างยิ่งในคนคนเดียว
ทั้งเราและเขาอาจจะมีคนพิเศษในวิถีชีวิตได้หลายลักษณะ พิเศษในเรื่องนั้น
พิเศษในเรื่องนี้
ในเมื่อหัวใจเป็นของเรา
เราก็ย่อมเลือกให้ความพิเศษกับใครก็ได้
ที่เราจะไม่ต้องแลกกับความทุกข์อย่างพิเศษกลับมา จงให้ "ความพิเศษ"
เป็นชีวิตชีวาเป็นแววตาที่แจ่มใส เป็นความห่วงใยที่เมื่อนึกถึงทีไรก็ยิ้มได้
ไม่วิ่งหนี แต่ไม่วิ่งตาม ไม่หักห้าม แต่ไม่กระโจนใส่
ไม่เป็นน้ำตาลที่หวานอ่อนไหว แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจและเอื้ออาทร
|
|
จงเป็นความแจ่มใสในอารมณ์ของตัวเอง เป็นความชุ่มชื่น สดใส เช่นสายน้ำ
เป็นสีสันงดงามเช่นมวลผกา เป็นสีเขียวของใบไม้ ที่เย็นที่ตาและที่ใจ
และที่ตรงนี้ จะอีกนานเท่าใด ไม่ว่า "คนพิเศษ"
คนนั้นจะอยู่ใกล้หรือต้องจากกันไกล "ความพิเศษ"
นั้นก็จะคงอยู่อย่างมีคุณค่า ณ ที่เดิม ที่ซึ่งใจข้างซ้ายตรงกัน
|
|
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น